เมื่อทำการสำรวจมาแล้ว ผลออกมาจะได้เป็นข้อมูล point cloud 3D เป็น file นามสกุล *.rcp หรือ (นามสกุลของโปรแกรม AutoDesk Recap) ซึ่งสามารถนำมาเขียนใช้งานร่วมกับ โปรแกรมของค่าย AutoDesk ได้ทุกโปรแกรม เช่น AutoCAD 3D,Revit,NavisWorks,3DMAX แต่ในส่วนของ Sketup ยังไม่สามารถใช้ได้ ต้องมี Plug-in เสริม

สำหรับราคาค่าสำรวจ เราคิดเป็นโครงการที่สามารถทำเสร็จได้ภายในกี่วัน เรื่องพื้นที่ ในแต่ละวัน แต่ละโครงการนั้นสามารถสแกนได้ไม่เท่ากัน เช่น ใน 1 วัน มีการสแกนเก็บแบบ Asbuilt warehouse ซึ่งเป็นพื้นที่โล่งๆ ได้ พื้นที่ 2,000 ตารางเมตร กว่าๆ แต่ขณะที่ใน 1 วันสแกน Asbuilt ห้องแถว 3 คูหา คูหาละ 3 ชั้น ซึ่งเป็นห้อง เล็กๆ ในแต่ละชั้นนั้นซอยไปย่อยอีกหลายห้อง ซึ่งคิดเป็น พื้นต่อชั้น 375 ตาราง x 3 ชั้น = 1125 ตารางเมตร ได้ประมาณเท่านี้

สรุปคือ เกณฑ์ในการคิดราคาสำหรับการประเมินค่าสำรวจ จะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนแต่ละพื้นที่ และคำนวณกลับมาว่าพื้นที่นั้นๆจะใช้เวลาทำงานให้เสร็จภายในกี่วัน ซึ่งการประเมินงานต้องดูที่ความซับซ้อนของพื้นที่หน้างานนั้นๆ และโจทย์ที่ลูกค้าต้องการ นำมาคำนวณราคา

เมื่อทำการสำรวจมาแล้ว จะได้เป็นข้อมูลแบบ point cloud 3D เป็น file นามสกุล *.rcp หรือ นามสกุลของโปรแกรม AutoDesk Recap สามารถนำมาเขียนกับ โปรแกรมของค่า AutoDesk ได้ทุกโปรแกรม เช่น AutoCAD, Revit
ซึ่งในโปรแกรม Recap เป็นโปรแกรม viewer และ measure เบื้องต้นใส่ label ได้ ส่วนใหญ่จะใช้ ดูภาพรวม และ presentation สิ่งที่เราสแกนมา ถ้าจะทำแบบ แนะนำให้ทำต่อในโปรแกรมเขียนแบบที่กล่าวมา

ขั้นตอนง่ายและไม่ซับซ้อน ใช้เทคนิคดังนี้

1. นำกล้อง FARO FOCUS ไปสแกนงาน 3 มิติ (แทนการวัดแบบปกติ)
2. ได้ข้อมูลสำรวจมาเปิดใน Recap เพื่อทำการวัด
3. ทำแบบ ใน AutoCAD หรือ Revit

ประโยชน์จากการทำสแกน 3 มิติ

1. ลดการ error จากการวัดเทปหน้างาน โดยไม่ต้องกังวลการวัดมุมต่างๆของอาคาร หรือพื้นที่ซับซ้อน
2. ช่วยลดเวลา และลดคนงานที่จะไปสำรวจ เพราะเป็นหน้าที่ของกล้อง 3D Laser Scanner
3. วัดและสแกนได้ง่าย ในอาคารและสิ่งก่อสร้าง ที่มีรูปทรงแบบ unform  ต่างๆ ทั้งแนวโค้ง องศา ความสูง ที่คนงานดึงเทปได้ไม่สะดวก